หลายคนอยากลองกินข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด...แต่ไม่รู้จะกินแบบไหน? เริ่มอย่างไร? หุงอย่างไร? เมล็ดข้าวโอ๊ตแข็งไหม? แล้วนำไปกินกับอะไรได้บ้าง? มาดูคำตอบพร้อม ๆ กันเลยดีกว่ากับ 3 ขั้นตอนการกินข้าวโอ๊ตสำหรับมือใหม่ ฉบับข้าวโอ๊ตเวอรีนาย
ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดคืออะไร?
โดยปกติแล้วข้าวโอ๊ตจะมีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าว แต่ทว่าในประเทศเขตหนาวที่ปลูกข้าวโอ๊ต นิยมนำข้าวโอ๊ตไปรีดเป็นแผ่นแบน ๆ นำเข้าไปอบพอประมาณจนกลายเป็น Rolled Oats หรือข้าวโอ๊ตชนิดอบที่คนไทยคุ้นเคยกันดี เพราะมีจำหน่ายตลาดท้องตลาดทั่วไป
ในขณะที่ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด (Oat Groats) เป็นเพียงเมล็ดข้าวโอ๊ตที่ถูกโม่เอาเปลือกชั้นนอกออก จึงมีลักษณะสมบูรณ์ใกล้เคียงธรรมชาติข้าวโอ๊ตที่สุด กล่าวคือมีจมูกข้าวและมีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดเมื่อเทียบกับข้าวโอ๊ตชนิดอื่น
หุงอย่างไร?
สามารถใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าทั่วไปในการหุงได้เลย ด้วยอัตราข้าวโอ๊ต 1 : น้ำ 2 หรือใช้ทฤษฎีหุงด้วยการเติมน้ำให้สูงกว่าระดับข้าวโอ๊ต 1 ข้อนิ้วมือในกรณีที่หุงปริมาณเยอะ (มากกว่า 400 กรัมต่อครั้ง) โดยใช้ระยะเวลาหุงประมาณ 30-35 นาทีและรอให้ข้าวโอ๊ตระอุอีก 5 นาที เพียงเท่านี้ก็รับประทานได้เลย
เริ่มต้นกินอย่างไร?
ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดนิยมนำหุงทานแทนข้าวขาว จะมีเมล็ดนุ่ม เคี้ยวหนุบหนับ มีกลิ่นหอมละมุนคล้ายกับเนยบราวน์บัตเตอร์และมีรสชาติหวานนิด ๆ แต่จุดเด่นของข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดเมื่อหุงแล้วจะไม่กวนรสชาติอาหาร (แตกต่างจากข้าวเพื่อสุขภาพชนิดอื่น เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี)
มือใหม่ที่ยังไม่คุ้นชิ้นรสชาติ ให้เริ่มต้นที่ [เสต็ป 1] ผสมกับข้าวขาวในอัตรา ข้าวโอ๊ต 1 : ข้าวขาว 3 เพื่อเป็นการปรับลิ้นให้คุ้นชินกับรสสัมผัสของข้าวโอ๊ตที่จะมีความนุ่น หนุบหนับ และหอมเป็นเอกลักษณ์ต่างจากข้าวชนิดอื่น ๆ
คนที่เริ่มคุ้นชินบ้างแล้ว ให้ต่อด้วย [เสต็ป 2] ผสมกับข้าวขาวในอัตรา ข้าวโอ๊ต 1 : ข้าวขาว 1 เพิ่มสัดส่วยระหว่างข้าวทั้งสองชนิดให้เทียบเท่ากัน เสต็ปนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงรสสัมผัสของข้าวโอ๊ตมากยิ่งขึ้น
คนที่ทานเป็นประจำ
ยืนระยะที่ [เสต็ป 3] ทานข้าวโอ๊ต 100% ในเสต็ปนี้คุณจะได้สัมผัสกับความอร่อยอย่างมีเอกลักษณ์ของข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดและได้รับคุณประโยชน์แบบเต็ม ๆ ที่ดีต่อร่างกายเมื่อทานเป็นประจำ
ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดดีต่อสุขภาพอย่างไร?
ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดมีไฟเบอร์สูงมาก (สูงกว่าข้าวขาว 10 เท่า) นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยโปรตีนจากพืชและแร่ธาตุ อาทิ โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ทองแดง เหล็ก ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม วิตามินอี และวิตามินบีอีกหลายชนิด
เพราะอุดมด้วยสารอาหารสำคัญจำนวนมาก ข้าวโอ๊ตจึงถูกจัดให้เป็น Super Food หรืออาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายโดยแทบจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายเลย เช่น ช่วยลดคอเลสเตอรอล, ลดไขมันไม่ดี (LDL), ลดไตรกลีเซอร์ไรด์ ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ช่วยคุมน้ำหนักเพราะกินแล้วอิ่มท้องอยู๋นาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในร่างกายให้สมดุล ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคความดัน และเบาหวานชนิดที่ 2
เก็บรักษาอย่างไร?
ข้าวโอ๊ตมีคุณสมบัติดูดซับกลิ่นได้ค่อนข้างดี จึงจำเป็นต้องเก็บในภาชนะปิดสนิทกันอากาศเข้า แล้วถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นคือเก็บแช่ใส่ตู้เย็นช่องธรรมดาที่ไม่ชื้นจนเกินไปจะช่วยลดโอกาสมอดขึ้นได้
Kommentare