ข้าวโอ๊ต คืออะไร? ข้าวโอ๊ต เป็นธัญพืชเมืองหนาว เติบโตได้ดีในที่ที่อากาศเย็น โดยข้าวโอ๊ตนั้นถูกจัดให้เป็น Super Food หรืออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนการสูงมาก และแทบจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
ข้าวโอ๊ตตามธรรมชาติจะมีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าวทั่วไป แต่ด้วยวิถีของคนประเทศเขตหนาวจะนิยมนำข้าวโอ๊ตไปรีดเป็นแผ่น ๆ และอบจนสุกพอประมาณ เพื่อให้รับประทานได้รวดเร็วเพียงแค่เติมน้ำร้อน, นม, หรือโยเกิร์ต โดยข้าวโอ๊ตที่ถูกนำไปรีดนั้นมีชื่อเรียกว่า Rolled Oats หรือข้าวโอ๊ตชินดอบพร้อมทาน คนไทยเราคุ้นเคยกันดี เพราะมีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป
ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด คืออะไร?
ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด (Oat Groats) คือเมล็ดข้าวโอ๊ตที่ถูกโม่เพื่อเอาเปลือกชั้นนอกออก มีลักษณะที่สมบูรณ์ใกล้เคียงกับธรรมชาติของข้าวโอ๊ตมากที่สุด จึงมีจมูกข้าวและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุดเมื่อเทียบกับข้าวโอ๊ตแบบอื่น โดยข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดจะนิยมนำไปหุงเป็นข้าวสวย เพื่อรับประทานแทนข้าวขาวหรือข้าวเพื่อสุขภาพชนิดอื่น ๆ
ข้าวโอ๊ต ดีต่อสุขภาพอย่างไร?
ข้าวโอ๊ตนั้นอุดมไปด้วยใยอาหาร มีใยอาหารสูงกว่าข้าวขาวถึง 9 เท่า ทั้งยังเป็นแหล่งรวมของเบต้ากลูแคน (Beta-Glucan) โปรตีนจากพืช (plant-based protein) และสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม วิตามินอี และวิตามินบีหลายชนิด
เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ข้าวโอ๊ตจึงถูกจัดให้เป็น Super Food หรืออาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมาก โดยแทบจะไม่ส่งผลเสียเลย เช่น • ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดไขมันไม่ดี (LDL) • ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย • ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย แก้ท้องผูก • ช่วยคุมน้ำหนัก ทานแล้วอิ่มเร็ว อยู่ท้องนาน • ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ • ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ • ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน • ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน • ช่วยป้องกันกลุ่มโรค NCDs เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน
ข้าวโอ๊ต หุงทานอย่างไร?
ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด (Oat Groats) หุงง่าย ๆ ด้วยอัตราข้าวโอ๊ต 1 : น้ำ 2 หรือใช้ทฤษฎีหุงโดยเติมน้ำให้สูงกว่าระดับข้าวโอ๊ต 1 ข้อนิ้วมือ ใช้เวลาหุงประมาณ 30 - 35 นาที และรอให้ข้าวโอ๊ตระอุอีก 5 นาที ก็จะได้ข้าวโอ๊ตที่นุ่ม เคี้ยวง่าย มีกลิ่นหอมละมุนคล้ายเนยบราวน์บัตเตอร์ แต่เมื่อทานแล้วจะไม่กวนรสชาติอาหาร สามารถทานแทนข้าวขาว ทานคู่กับเมนูโปรดได้เลย
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นชินกับการทานข้าวโอ๊ต สามารถนำสูตรดังนี้ไปใช้ได้
● เสต็ป 1 - ผสมข้าวโอ๊ตกับข้าวขาวในอัตรา ข้าวโอ๊ต 1 : ข้าวขาว 3 เพื่อปรับลิ้นให้คุ้นชินกับรสสัมผัสของข้าวโอ๊ตที่จะมีความนุ่ม หนุบหนับ และหอมเป็นเอกลักษณ์ต่างจากข้าวชนิดอื่น
● เสต็ป 2 - เมื่อเริ่มคุ้นชินแล้ว สามารถผสมข้าวโอ๊ตกับข้าวขาวในอัตรา ข้าวโอ๊ต 1 : ข้าวขาว 1 ให้สัดส่วนของข้าวทั้งสองชนิดเท่ากัน เสต็ปนี้จะช่วยให้คุ้นชินกับรสสัมผัสของข้าวโอ๊ตมากยิ่งขึ้น
● เสต็ป 3 - สำหรับทานเป็นประจำ แนะนำให้หุงข้าวโอ๊ต 100% เพื่อความอร่อยขั้นสุดและสุขภาพดีในทุก
ข้าวโอ๊ต เหมาะกับใครบ้าง?
ข้าวโอ๊ต สามารถรับประทานได้ทุกวัน เพราะอุดมด้วยคุณประโยชน์ทีดีต่อร่างกาย เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่ต้องการมีสุขภาพดี, ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก, ผู้ที่ต้องการลดความดัน ลดไขมันในเลือด, ผูที่ต้องการป้องกันโรคหัวใจ และเบาหวาน, ผู้ที่ต้องการทานโปรตีนจากพืช, คุณแม่ที่ใส่ใจโภชนาการของลูกน้อย, คุณลูกที่ใส่ใจสุขภาพของพ่อแม่
ข้อแนะนำ
ข้าวโอ๊ตเป็นอาหารที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม คนในกลุ่มต่อไปนี้ควรเลี่ยงการรับประทานข้าวโอ๊ตหรือผลิตภัณฑ์จากข้าวโอ๊ต
● ผู้ทีมีอาการเกี่ยวกับโรคไต ที่ต้องควบคุมการรับประทานโปรตีน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม
● ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร เพราะข้าวโอ๊ตจะอยู่ในท้องนาน ทำให้อิ่มนาน หากร่างกายย่อยอาหารได้ยาก จึงอาจเกิดอาการแน่นท้องตามมา
● ผู้ที่มีอาการแพ้อะวีนิน (Avenin) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งในข้าวโอ๊ตที่คล้ายกับกลูเตนในข้าวสาลี
วิธีเก็บรักษา
ข้าวโอ๊ตมีคุณสมบัติดูดซับกลิ่นได้ค่อนข้างดี จำเป็นต้องเก็บในภาชนะปิดสนิทเพื่อกันอากาศเข้า และเพื่อเพิ่มอายุในการเก็บรักษาควรแช่ใส่ตู้เย็นช่องธรรมดา จะเก็บได้นาน 8-12 เดือน และจะช่วยป้องกันไม่ให้มอดขึ้นได้
Comments